วงจรตรรกะดิจิตอล (Digital Logic Circuits)
ในปลายปี ค.ศ. คลอด์แซนนอน (Claude Shannon) นักศึกษาปริญญาโทของ MIT (Massachusetts Institute of Technology) ได้สังเกตพบว่าวงจรสวิตซ์ของวงจรโทรศัพท์และการเชื่อมตรรกมีลักษณะคล้ายกัน จึงได้ออกแบบวงจรเขียนผลลัพธ์ที่ได้ในวิทยานิพนธ์ของเขาซึ่งตีพิมพ์ใน ค.ศ. 1938 การศึกษาของเขามีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการมาประยุกต์ในการออกแบบวงจรตรรกะดิจิตอล ซึ่งมีประโยชน์มหาศาลในการพัฒนาด้านคอมพิวเตอร์
ความสัมพันธ์ของสวิตซ์และนิพจน์ตรรก (The Relation of Switches and Logic Expression)
จากรูปแสดงสถานะของสวิตซ์อย่างง่าย 2 สถานะ คือสถานะเปิด (open) และ สถานะปิด (closed)
เมื่อกระแสไฟฟ้าสามารถไหลไปยังด้านหนึ่งได้ และเมื่อสวิตน์เปิด กระแสไฟฟ้าไม่สามารถไหลผ่านได้ หลอดไฟจะติด (on) ก็ต่อเมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านหลอดไฟ หลอดไฟจะดับ(off) ก็ต่อเมื่อไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ นั่นคือ สวิตซ์หรือสะพานไฟเปิด
การต่อสวิตซ์แบบอนุกรม หารไหลผ่านของกระแสไฟฟ้า และทำให้หลอดไฟติด (on) ก็ต่อเมื่อสวิตซ์ p และ q ปิด (closed) ความเป็นไปได้ในทุกกรณีของการเปิด และปิดสวิตซ์ ที่สัมพันธ์กับการติดและดับของหลอดไฟ สามารถแสดงได้ดังตาราง เช่น กรณีหนึ่งสวิตซ์ p และสวิตซ์ q ปิดทั้งคู่ ดังนั้นกระแสไฟฟ้าสามารถไหลผ่านได้ สถานะของหลอดไฟจะติด (มีความสว่าง) ในกรณีที่สอง สวิตซ์ p ปิแต่สวิตซ์ q เปิด กระแสไฟฟ้าก็ไม่สามารถไหลผ่านได้ สถานะไฟก็จะดับ (ไม่มีแสงสว่าง)
สวิตซ์ |
หลอดไฟ |
|
P |
Q |
สถานะ |
ปิด |
ปิด |
ติด |
ปิด |
เปิด |
ดับ |
เปิด |
ปิด |
ดับ |
เปิด |
เปิด |
ดับ |
การต่อสวิตซ์แบบอนุกรม
ถ้าสถานะของสวิตซ์ปิด (closed) และสถานะของหลอดไฟติด (on) แทนค่าตจิง (T) ด้วย 1 สถานะของสวิตซ์เปิด (open) และสถานะของหลอดไฟดับ (off) แทนค่าเท็จ (F) แทนค่า 0
หากแทนค่าเบื้องต้นด้วยตารางค่าความจริง ผลลัพธ์การติดและดับของหลอดไฟ จะสัมพันธ์กับตรรกะการเชื่อมประพจน์ p ^ q
Home กลับก่อนหน้านี้ หน้าถัดไป